ttwater-ice.com

Water Fasting คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักจริงหรือไม่ ?

Water Fasting คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักจริงหรือไม่ ?

เมื่อพูดถึงคนที่รักในสุขภาพที่ดี หรือคนที่ต้องการมีรูปร่างที่ดีนั้น วิธีการอดอาหารเป็นวิธีที่ช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ต้องระมัดระวังและทำอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันผลข้างเคียง และไม่ควรทำเป็นระยะยาว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มทำทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

โดยหัวข้อดังกล่าว คือการอดอาหารโดยรับประทานเพียง น้ำดื่มเพื่อสุขภาพจากร้าน ขายน้ำดื่ม ที่ได้จาก ขายส่งน้ำดื่ม เท่านั้น ไม่รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ซึ่งวิธีนี้เป็นการล้างสารพิษและให้ระบบย่อยอาหารได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยส่วนใหญ่จะทำในระยะเวลาสั้น ๆ ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงจนถึงหลายวัน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละคน

อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าว มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ หากทำโดยไม่มีการวางแผนหรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น อาการเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หรือน้ำตาลในเลือดต่ำ จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้สูงอายุ เพื่อความปลอดภัยในการปฎิบัติ มีวิธีแนะนำได้ ดังนี้

การติดตามอาการอย่างใกล้ชิดระหว่างทำ Water Fasting คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักจริงหรือไม่ ? นั้นเป็นสิ่งจำเป็น แพทย์อาจแนะนำให้มีการตรวจเลือดหรือวัดค่าทางชีวภาพเป็นระยะ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น จะได้หยุดการอดอาหารได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ การออกจากภาวะอดอาหารก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าช่วงที่ทำการอดอาหาร แพทย์สามารถแนะนำวิธีการเริ่มรับประทานอาหารอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อป้องกันปัญหาทางระบบทางเดินอาหารหรืออาการโยโย่ ดังนั้น หากคุณกำลังพิจารณาจะทำ Water Fasting การปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มจึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยและรับผิดชอบต่อสุขภาพของคุณมากที่สุด โดยจะมีผลเสียที่ตามมา 3 ข้อ ดังนี้

  1. ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
  2. ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  3. ความดันโลหิตต่ำ หรือปัญหาเกี่ยวกับตับและไต

หลังจากจบการอด ควรค่อย ๆ กลับมากินอาหารอย่างระมัดระวัง

เนื่องจาก ระบบย่อยอาหารยังปรับตัวไม่ทัน อาจทำให้แน่นท้องหรือคลื่นไส้ได้ มื้อแรกควรกินในปริมาณน้อย (ประมาณ 25–50% ของมื้อปกติ)โดยมี น้ำดื่ม ราคาส่ง ไว้คอยบริโภค และค่อย ๆ เพิ่มในมื้อต่อ ๆ ไปถ้าร่างกายตอบสนองดี ไม่มีอาการท้องอืดหรือปวดท้อง ควรหลีกเลี่ยงอาหารมันจัด หวานจัด หรือเผ็ดจัด เป็นต้น

นอกจากนี้ หลังจากการอดอาหาร (fasting) โดยเฉพาะหากเป็นการอดที่ยาวนานหรือเป็นการทำ intermittent fasting แบบเข้มข้น ควรกินอาหารอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น อาการท้องอืด คลื่นไส้ หรือภาวะ refeeding syndrome (ในกรณีอดนานมาก) และนี่คือแนวทางที่แนะนำ มี 6 ข้อ ดังนี้

  1. เริ่มจากอาหารเบาและย่อยง่าย
  2. เคี้ยวอาหารให้ละเอียด และกินช้า ๆ
  3. เพิ่มปริมาณอาหารทีละน้อย
  4. เน้นอาหารที่ให้พลังงานและสารอาหารครบถ้วน
  5. ดื่ม น้ำดื่ม OEM ให้เพียงพอ ขอแนะนำ โรงงานผลิตน้ำดื่ม
  6. หลีกเลี่ยงการกินเยอะในคราวเดียว

Water Fasting คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักจริงหรือไม่ ? ควรเริ่มจากช่วงเวลาสั้นๆ ดังนี้

ในช่วงเริ่มต้นนั้น การอดอาหารแบบ water fasting ระยะสั้น (เช่น 12–24 ชั่วโมง) เป็นวิธีที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นในการเรียนรู้ว่าร่างกายตอบสนองอย่างไรต่อการอดอาหาร โดยดื่มเฉพาะ น้ำดื่มมาตรฐาน อย เท่านั้น ในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น 12, 16 หรือ 24 ชั่วโมง โดยไม่มีแคลอรีเข้าร่างกายเลย

นอกจากนี้ ควรเลือกวันที่ไม่เครียด ไม่ต้องใช้แรงมาก เช่น วันหยุด เป็นต้น ลดอาหารหนัก-แปรรูปลงล่วงหน้า 1 วัน เช่น เลี่ยงของทอด น้ำตาล และกาแฟ ช่วงแรกอาจมีอาการหน้ามืดและวิงเวียนเล็กน้อย เนื่องจากร่างกายขาดน้ำตาลจากการงดอาหาร ดังนั้นควรกินอาหารที่ย่อยง่ายก่อน เช่น ข้าวกล้อง ผักต้ม เนื้อไม่ติดมัน สำหรับมือใหม่ เริ่มที่ 16 ชั่วโมงก่อน เช่น 18.00 น. หยุดกินมื้อเย็น,อดอาหารข้ามคืน,กินอีกที 10.00 น. วันรุ่งขึ้น เป็นต้น และถ้ามีอาการเวียนหัว อ่อนแรง พัก นอน หรือยุติการอดทันที ซึ่งสรุปเป็นวิธีง่ายๆได้ 3 ข้อ ดังนี้

  1. เตรียมตัวก่อนอด (1 วันก่อนเริ่ม)
  2. จัดตารางวันอดอาหาร (เช่น อด 16–24 ชั่วโมง)
  3. ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 2 ลิตร ตลอดวัน
การดื่มน้ำเปล่า ส่งผลดีกับลำไส้ยังไง

การดื่มน้ำเปล่า ส่งผลดีกับลำไส้ยังไง โดยมีประโยชน์อย่างไรบ้างนั้น การดื่มน้ำยังช่วยลดสารพิษและของเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้โดยการทำให้อุจจาระมีความชื้นที่เหมาะสม ขับออกได้ง่าย ลดการเกิดแก๊สหรืออาการท้องอืด ส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ลำไส้สะอาด ช่วยให้ร่างกายโดยรวมมีสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน

สรุป Water Fasting คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักจริงหรือไม่ ?

การอดอาหารโดยดื่ม น้ำดื่มสะอาด เป็นระยะเวลาหนึ่ง ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือฟื้นฟูสุขภาพ อย่างไรก็ตาม การทำ Water Fasting ไม่เหมาะสำหรับทุกคน และอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพได้หากทำโดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มจึงเป็นขั้นตอนสำคัญอย่างยิ่ง

แพทย์สามารถประเมินสภาพร่างกายเบื้องต้น ตรวจสอบว่าคุณมีโรคประจำตัวหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายจากการอดอาหาร เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตต่ำ หรือปัญหาเกี่ยวกับตับและไต นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำวิธีการปรับอาหารก่อนเริ่ม Water Fasting เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้น และลดอาการข้างเคียงระหว่างการอดอาหาร เช่น เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หรือภาวะขาดเกลือแร่

FAQ คำถามที่พบบ่อย Water Fasting คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักจริงหรือไม่ ?

คือการงดอาหารทุกชนิด และดื่มเพียงน้ำเปล่าเท่านั้น

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน (โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยา) และหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ช่วยลดน้ำหนักได้ เหตุผลเพราะร่างกายจะใช้ไขมันสะสมเป็นพลังงาน